Bose แบรนด์ลำโพงหูฟังระดับโลก ที่ขึ้นชื่อในเรื่องคุณภาพเสียงหันมาเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ Audio Sunglasses หรือ แว่นตาสำหรับฟังเพลง ใช้ชื่อรุ่นว่า Frames โดยออกแบบรูปทรงแว่นตาให้มีความร่วมสมัย ตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกโอกาส ดีไซน์เรียบหรูแบบคลาสสิค ซึ่ง Bose Frames มีให้เลือกถึง 2 รูปแบบ ทั้ง Alto ที่มาในทรงเหลี่ยม และ Rondo แนวคลาสสิคด้วยทรงกลมออกแนวฮิปเตอร์ ดีไซน์ที่กล่าวมาทั้งหมดยังเป็นเพียงแค่รูปทรงภายนอก แต่ภายในแว่นตา Bose Frames ประกอบไปด้วยแผงวงจรและลำโพงขนาดเล็ก สำหรับผู้ใช้งานได้สวมใส่ป้องกันแดดไปด้วย พร้อมฟังเพลง และ คุยโทรศัพท์ ได้อย่างไม่ต้องแยกอุปกรณ์ที่ต้องพกพาทั้งแว่นตา และ หูฟัง
จุดเด่น
- ลำโพงขนาดเล็กอยู่ในเฟรมแว่น เทคโนโลยีจาก Bose
- ป้องกันแสงแดง และ รังสี UV ได้ถึง 99%
- เชื่อมต่อฟังเพลงแบบไร้สายด้วย Bluetooth
- กดรับสายจากแว่น พร้อมสนทนาด้วยไมค์ของแว่น
- รองรับสั่งงานด้วยเสียง ทั้ง SIRI และ Google Assistant
- มาตรฐาน IPX2 ใช้งานได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน
- รับคุณสมบัติใหม่ๆ รองรับการอัพเดทเฟิร์มแวร์ผ่าน Bose Connect app
รูปทรง
- จากที่ลองสัมผัส Bose Frames ทั้งตัวบอดี้ และ กรอบแว่น คุณภาพวัสดุที่มีนำมาใช้ถือว่าอยู่เกณฑ์ดี ด้วยงานประกอบเทียบเท่ากับแว่นตาในช่วงราคาเดียวกัน
- ตัวเลนส์ (Polarized Lenses) ช่วยป้องกันแสงแดง และ รังสี UV ได้ถึง 99% รับมือกับแสงแดดเมืองไทยได้สบายๆ
- บริเวณช่วงบานพับวัสดุสแตนเลสมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ดีไซน์เลือกใช้สีทองตัดกับสีแว่น ให้ความรู้สึกถึงความพรีเมี่ยมมากกว่าแว่นทั่วๆไป
Alto (ทรงเหลี่ยม)
- Bose Frames Alto ลักษณะจะคล้ายๆกับแว่น Rayban ทรงฮิตอย่าง Wayfarer โดย Alto จะเหมาะกับผู้ชาย หรือโครงหน้ากลางไปจนถึงใหญ่
Rondo (ทรงกลม)
- Bose Frames Rondo แว่นทรงกลมในแนววินเทจ คล้ายกับทรง Round Metal ของ Rayban ซึ่งจะเหมาะผู้ที่โครงหน้าเล็ก หรือ ผู้หญิง
ส่วนเรื่องปุ่มกดใช้งาน และ ควบคุมต่างๆ ในแว่น Bose Frames จะมีเพียง 1 ปุ่มเท่านั้น โดยมีลักษณะการกดที่แตกต่างกันออกไป
- กด 1 ครั้ง - เล่นเพลง / หยุด / หยุดชั่วคราว / รับสาย - วางสาย
- กดค้าง พร้อมหันศรีษะ - ปรับระดับเสียง
- กด 2 ครั้ง / 3 ครั้ง - เพลงถัดไป / เพลงก่อนหน้า
บริเวณด้านขวาจะมีพอร์ตสำหรับชาร์จไฟรูปแบบแม่เหล็กประกบ ซึ่งเป็นพอร์ตเฉพาะสำหรับ Bose Frames เท่านั้น โดยสายอีกด้านจะเป็น USB สำหรับใช้กับอแดปเตอร์เพื่อเสียบไฟบ้าน
คุณภาพเสียง
ขึ้นชื่อว่า Bose เรื่องคุณภาพเสียงอยู่เกณฑ์รับได้อย่างแน่นอน อย่างใน Bose Frames ยังคงให้มิติเสียง แยกซ้าย-ขวา ฟังแล้วสนุกเพลิดเพลิน ด้วยลำโพขนาดเล็กทั้งสองข้าง ให้อารมณ์เหมือนใช้หูฟัง Earbuds โดยไม่ต้องสอดเข้าไปในหู
- เสียงเบส : พลังเบสค่อนข้างอ่อน เน้นในเสียงแหลม
- เสียงร้อง : ทำได้ดี เสียงร้องที่เด่นขึ้นและชัด
- เสียงแหลม : เก็บรายละเอียดของความใสได้ครบ
- เวทีเสียง : ระดับกลาง แยกมิติเสียง ซ้าย-ขวาได้
ในเรื่องความเป็นส่วนตัว เมื่อเปิดฟังเพลงในระดับเสียงที่ดังสุด ผู้คนรอบข้างจะได้ยินเสียงเพลงที่คุณกำลังฟังอยู่ด้วย จึงแนะนำเวลานำไปใช้ในสถานที่สาธารณะ ควรลดระดับเสียงให้อยู่ระดับปานกลาง
ฟังก์ชั่น AR
Bose Frames รองรับ six AR apps และ Audio AR เพื่อรับประสบการณ์เสมือนจริง ด้วยท่าทางการเคลื่อนไหว และ จำลองมิติเสียง โดยเข้าไปค้นหาดาวโหลดแอพที่รองรับ six AR มาใช้ทดลองใช้งานได้ จาก Boes Connect app
แบตเตอรี่
ด้วยขนาดความจุของแบตเตอรี่ที่รองรับการใช้งานได้สูงสุด 3.5 - 4 ชั่วโมง จึงไม่เพียงพอต่อการใช้งานที่ยาวนานในชีวิตประจำวัน เหมาะกับการใช้งานในแนวไลฟ์สไตล์มากกว่า อย่างเช่น ฟังเพลงในขณะเดินทางสั้นๆ หรือ สแตนบายรับสายโทรศัพท์ โดยใช้เวลาชาร์จไฟประมาณ 2 ชั่วโมง
สรุป
ถ้าคุณกำลังมองหาแว่นตาดีไซน์ดูดีและที่เป็นมากกว่าแว่นตาทั่วๆไป Bose Frames เข้ามาตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน ด้วยฟังก์ชั่นไร้สาย Bluetooth ที่เชื่อมต่อฟังเพลง สนทนาสาย ได้สะดวกขึ้น โดยคุณไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา อีกทั้งเอกลักษณ์เสียงของ Bose ที่ยังพอมีให้สัมผัสบาง แต่ถ้าคุณหวังในเรื่องพลังเสียงที่หนักแน่น เบสลูกใหญ่ๆ Bose Frames คงไม่สามารถตอบโจทย์คุณได้ ด้วยความเป็นแว่นตาที่ทันสมัย ทั้งคุณสมบัติ AR และ ลำโพงบลูทูธ บวกกับเป็นเครื่องแต่งกายที่พกพา หรือใส่กันแดด เมื่อโอกาสอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง ถือว่าคุ้มในระดับราคาไม่ถึงหมื่น