[Review] รีวิว Jabra Elite Sport หูฟังออกกำลังกายไร้สาย เทคโนโลยีเพื่อคนรักออกกำลังกาย ติดตามทุกการเคลื่อนไหว
พบกับการรีวิวแบบเจาะลึก ตามติดทุกฟังก์ชั่นการออกกำลังกาย ไม่ใช่แค่คุณภาพเสียงเท่านั้น เพราะหูฟังตัวนี้มีดีมากกว่าฟังเพลง ที่นำมาออกกำลังกายและใช้งานได้จริง
ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ๆที่ก้าวล้ำไปมากกว่า หูฟัง AirPods จาก Apple ทั้งรูปทรงและฟังก์ชั่นที่ออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกายในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะ
ไฮไลท์เด็ดๆที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ เซนเซอร์วัดชีพจรจากหูฟังโดยตรง ที่นำมาช่วยวัดผลการออกกำลังกายที่แม่นยำเชื่อถือได้ เป็นจุดเด่นสำคัญที่หูฟังรุ่นอื่นๆไม่มี
พร้อมวัดค่า VO2MAX ที่ประเมินค่าความฟิตของการออกกำลังกาย รู้ถึงขีดจำกัดของร่างกาย มาชมรายละเอียดฟังก์ชั่นที่ TSMACTIVE ตั้งใจนำเสนอ
คุณสมบัติ Jabra Elite Sport
- หูฟังรูปทรง True Wireless Smart Earbuds
- Sensors วัดชีพจากหูฟัง Heart Rate Monitor
- Sensors จับการเคลื่อนไหว TrackFit Motion Counting
- ติดตาม Time, Speed, Distance, Pace, Steps, Cadence, Calories, HR, HR zone, VO2 Max (Jabra Sport Life)
- รับสาย / ฟังเพลง (นอกโหมดออกกำลังกาย) สูงสุด 3 ชั่วโมง
- ชาร์จไฟจาก Charging Case ได้ 2 ครั้ง
- โหมด HearThrough ช่วยฟังเสียงรอบข้าง
- กันน้ำมาตรฐาน IP67 (1เมตร)
- ไมโครโฟน Digital MEMS ลดเสียงรบกวน
- ปุ่มควบเพลง / สายเรียกเข้า / เข้า Jabra Sport Life App โดยตรง
- ช่วงความถี่ 20Hz - 20kHz
- ระบบตัดเสียงระบบกวน Passive noise cancelation
- รองรับการฟังเพลงผ่าน Apple iPhone, Android, และ Windows
Jabra Elite Sport ในกล่องมีอะไรบ้าง ?
EarWings Size S ได้สวมใส่มาให้จากโรงงาน ถ้าต้องการสวมใส่ที่กระชับรองรับกับหูแนะนำ Size M และ L
- หูฟัง Jabra Elite Sport
- Charging Case
- EarWings (S, M, L) - 3 ขนาด
- Silicone EarGels (S, M, L) - 3 ขนาด
- FoamTips (S, M, L) - 3 ขนาด
- คู่มือ (ภาษาไทย)
กล่อง Charging Case ที่ช่วยชาร์จไฟ
เพียงแค่วางหูฟัง Jabra Elite Sport ให้ขั่วสัมผัสตรงกับ Charging Case และปิดฝาทิ้งไว้ โดยในตัวหูฟังนั้นไม่มีช่องเสียบสายชาร์จ
ต้องอาศัย Charging Case เท่านั้น ดูสถานะแบตเตอรี่ได้จากไฟข้างๆ พร้อมช่องเสียบ Micro USB ถือได้ว่าเป็นกล่องที่ช่วยเก็บรักษาหูฟังและชาร์จไฟไปในตัว
คุณภาพของวัสดุ
หูฟังผลิตจากพลาสติกคุณภาพมีน้ำหนักเบา เคลือบยางเสริมความกระชับกับใบหู ป้องกันเหงื่อและน้ำฝนอย่างดี
โดยเทียบขนาดแล้วใหญ่กว่าเหรียญบาทเพียงเล็กน้อย งานประกอบของ Charging Case ถือว่าคุณภาพดี การเปิด-ปิด แน่นหนามั่นใจได้
การส่วมใส่จริง
การส่วมใส่แรกๆต้องปรับตัวให้ชินกับมุมการใส่ แต่สำหรับใครที่เคยใช้หูฟัง In-Ear น่าจะคุ้นชินอยู่แล้ว เพียงแค่หมุนหามุมให้เข้ารูปกับใบหู
หลังจากที่เปลี่ยน EarWings มาเป็น Size M แล้ว มีความกระชับดียิ่งขึ้นกับการเกี่ยวและล๊อค เพื่อเสริมให้การออกกำลังกายที่ต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอด
หูฟังด้านขวาเป็นหูฟังหลักที่มีเซนเซอร์วัดชีพจรอยู่ข้างล่าง เมื่อใช้งานคู่กับแอพ Jabra Sport Life เซนเซอร์จะทำงานทั้งวัดชีพและรู้ถึงการส่วมใส่
ปุ่มควบคุมด้านซ้าย L ( + / - )
- ปุ่ม + เพื่อเพิ่มเสียง กดค้างไว้เพื่อเปลี่ยนเพลงถัดไป
- ปุ่ม - เพื่อลดเสียง กดค้างไว้เพื่อย้อนไปเพลงก่อนหน้านี้
ปุ่มควบคุมด้านขาว R ( ● / ○ )
- ปุ่ม ● ปุ่มลัดเพื่อเข้าแอพ Jabra Sport Life โดยตรง
- ปุ่ม ○ เพื่อรับสาย/วางสาย , หยุดเพลง/เล่นเพลง , กดค้างเพื่อเปิด-ปิด HearThrough
เริ่มการใช้งาน
แนะนำให้โหลดแอพ Jabra Sport Life เพื่อการใช้งานควบคู่กับการออกกำลังกาย
รองรับได้ทั้ง IOS และ Android โหลดได้ที่ https://www.jabra.com/software-and-services/apps/jabra-sport-life
วิธีการใช้งานครั้งแรก
- เพียงกดปุ่มที่หูข้างขวา ที่ปุ่ม ○ ค้างไว้ประมาณ 5 นาที ให้มีไฟสีฟ้าขึ้น และสวมใส่ฟังคำแนะนำ พร้อมเปิดบูลทูธที่สมาร์โฟนเพื่อจับคู่
วิธีใช้งานกับ Jabra Sport Life
เมื่อโหลด Jabra Sport Life มาแล้ว เพียงแค่กรอกประวัติของตัวเราและเลือกหูฟังให้ตรงกัน แอพจะสอนการใช้งานเบื้องต้น
การใช้งานครั้งแรกจำเป็นต้อง Calibration การวัดชีพจร
เพื่อความแม่นยำของการวัดชีพจรจำเป็นอย่างยิ่งขึ้นควร Calibration โดยใช้เวลาสั้นๆเพียง 15 วินาที
การวัดชีพจรของหูฟังแม่นยำจริงไหม
ทางทีมงาน Tsmactive ได้รองสวมหูฟัง Jabra Elite Sport และใส่สายรัดชีพจร Mio Fuse คู่กัน พร้อมเปิดโหมดออกกำลังกายเพื่อวัดชีพจรไปพร้อมกัน
ผลทดสอบการวัดชีพของ Jabra Elite Sport มีความแม่นยำที่เชื่อถือได้ การเปลี่ยนระดับชีพจรอาจจะช้ากว่านาฬิากออกกำลังกายและสายรัดข้อมือเพียงเล็กน้อย
เพื่อความแม่นยำควรเลือก EarWings และ จุกหูฟัง ที่พอดีและกระชับกับหู เพื่อการวัดผลที่แม่นยำและหมดห่วงเรื่องการหลุดของหูฟัง
เชื่อมต่อกับ Strava ได้
ใครที่ใช้แอพ Strava อยู่แล้วสามารถนำข้อมูลการออกกำลังกายส่งไปที่ Strava ได้เพียง Log in จากแอพ Jabra Sport Life
5 โหมด Workout ในแอพ Jabra Sport Life มีอะไรบ้าง ?
โหมด Training Plan (รูปนกหวีด)
สามารถวางแผนและกำหนดการออกกำลังกายโดยเลือกกีฬาไว้ล่วงหน้าได้ตลอดทั้งสัปดาห์ พร้อมตั้งค่าเสียงจากโค้ชที่ค่อยบอกสถานะของร่างกายเรา
โหมด Activities (รูปรองเท้า)
มีโหมดกีฬามาให้พร้อมใช้งาน เช่น เดิน , เดินบนลู่วิ่ง , ปั่นจักรยาน , ปั่นจักรยานในร่ม , วิ่ง
พร้อมการแสดง 2 หน้า
- หน้าที่ 1. แสดงผล 2 ช่อง (เลือกการแสดงผลได้)
- หน้าที่ 2. แสดงผล 7 ช่อง (เลือกการแสดงผลได้)
โหมด Test to Track Your Fitness (รูปนาฬิกา)
ทดสอบ VO2MAX ในค่าชีพจรระดับ 70-100% ระยะเวลา 15 นาที เพื่อเช็คความสามารถการออกกำลังกายเป็นค่าเวลาสูดสุง เช่น สามารถวิ่ง Half มาราธอนได้ 2 ชั่วโมง
โหมด Cross-Traing (รูปดัมเบล)
เสมือนโค้ชที่แนะนำโปรแกรมการออกกำลังกายประเภทฟิตเนส พร้อมแสดงท่าทางการออกกำลังกายตามประเภทที่เราเลือกไว้
สามารถกำหนดจำนวนเซตและระยะเวลาของการฝึกได้ ถือว่าเป็นข้อดีสำหรับคนออกกำลังกายคนเดียว พร้อมเสียงโค้ชประกอบการออกกำลังกาย
ฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ
- ส่งข้อมูลการออกกำลังกานเป็นไฟล์ CSV ประเภท Zip ผ่านอีเมล์
- เก็บข้อมูล History สามารถดูข้อมูลย้อนหลัง
- Find my Headphones ตามหาหูฟังจากแผนที่
เสียงที่ได้จาก Jabra Elite Sport
โทนเสียงของหูฟัง Jabra Elite Sport หลังจากที่ได้ลองฟังทั้งแนวเพลง POP , Rock และ EDM
มิติการแยกเสียงของชิ้นเครื่องดนตรีทำได้ดี เทียบเท่ากับหูฟังรุ่นสูงๆ โทนของเสียงแนวใสๆ เหมาะกับแนวเพลง Pop และ Rock ได้อย่างดี
สรุปการใช้จริง
สำหรับการใช้งานในการส่วมใส่นั้นไม่ต้องกังวัลว่าจะหลุดจากหูง่ายๆในขณะออกกำลังกาย ด้วยรูปทรงที่ตอบรับกับการส่วมใส่ได้อย่างดี
เพียงแต่ต้องมั่นใจว่าใส่ในลักษณะที่ถูกต้อง เพื่อการใช้งานที่ต่อเนื่อง ถือว่าเพิ่มความสะดวกสบายของการออกกำลังกายได้อย่างดี
เป็นหูฟังไร้สายที่คนรักเทคโนโลยีไม่ควรพลาดเด็ดขาด ด้วยความคุ้มค่ากับการใช้งานที่ครอบคลุมการออกกำลังกายฟังเพลงและคุยโทรศัพท์ ขอฟันธงว่าเป็นหูฟังที่น่าซื้อจริงๆ
คะแนนของ Jabra Elite Sport
- คุณภาพวัสดุ : 9 /10
- ส่วมใส่ : 8.5/10
- การใช้งาน : 10/10
- ออกกำลังกาย : 10/10
- คุณภาพเสียง : 7/10
- รวม : 8/10